Verge Digital Infrastructure

ดร.พลาคม ชัยกิตติศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซีซี อินฟรา จำกัด บริษัทย่อยในกลุ่ม บริษัท แอดวานซ์ คอนเนคชั่น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ACC ซึ่งอยู่ในหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทเตรียมขยายงานรับเหมา อินฟราสตรัคเจอร์แบบครบวงจร โดยมุ่งเน้นการให้บริการรับเหมาโครงการสาธารณูปโภค ทั้งงานโยธา, เทเลคอม, ICT, ไฟฟ้า, พลังงาน และงานก่อสร้างแบบครบวงจร เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม และการบริหารโครงการรับเหมา อีกทั้งมีผู้บริหารและทีมวิศวกรที่มีประสบการณ์สูง และมีผลงานจำนวนมากที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าของโครงการ ซึ่งสามารถรองรับการลงทุนทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน ด้านอินฟราสตรัคเจอร์หรือสาธารณูปโภคจำนวนมาก เพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม รวมถึงรองรับการเข้าสู่เศรษฐกิจยุคดิจิตอล ที่ต้องการความรวดเร็วในการสื่อสาร ทั้งนี้ล่าสุดบริษัทได้เซ็นสัญญารับงานจ้างเหมาวางท่อร้อยสายและบ่อพักสำหรับสายใยแก้วนำแสงใต้ดิน (Underground Fiber Optic) ระยะทาง 130 กิโลเมตร ระหว่างจังหวัดสตูล ถึง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มูลค่าโครงการ 91,000,000 บาท กับ บริษัท วิน เทเลคอม จำกัด ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินงานในเดือนพฤษภาคมนี้ และจะเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาส 4 ปีนี้ อย่างไรก็ตามบริษัทมีความภูมิใจที่มีส่วนร่วมรับงานในโครงการนี้ ร่วมกับ บริษัท วิน เทเลคอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทเลคอม ที่มีศักยภาพสูง กำลังขยายกิจการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท แพรคติคอล โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TPS หนึ่งในผู้นำโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร สำหรับโครงการนี้เป็นส่วนสำคัญของโครงการระดับนานาชาติ การวางโครงข่ายเคเบิ้ลใยแก้วใต้น้ำระหว่างประเทศ (Saphan Project) ซึ่งมีกลุ่ม บริษัท LXT Networks และบริษัท Verge Digital Infrastructure เป็นเจ้าของโครงการที่ประกอบด้วยโครงข่ายแบบเปิด และ ศูนย์ข้อมูลชั้นนำขนาดใหญ่ (Data Center) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะมีการสร้างสถานีเคเบิ้ลใต้น้ำ ทั้งในชายฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก เชื่อมต่อกับศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ด้วยโครงข่ายสายใยแก้วนำแสงใต้ดินอันใหม่ บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าความสำเร็จของโครงการนี้ จะช่วยต่อยอดธุรกิจให้กับบริษัทในการขยายงานการวางระบบโทรคมนาคมในระดับนานาชาติต่อไป “ส่วนบริษัทอยู่ระหว่างเสนองานรับเหมาโครงการจำนวนหลายโครงการ อาทิ งานติดตั้งระบบโซลารูฟท็อป งานรับเหมาโยธา งานวางท่อ งานรับเหมาเทเลคอม โดยมูลค่าโครงการรวมกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยทราบผลภายในไตรมาส 2/2565-3/2565 นี้ โดยบริษัทคาดว่ามีโอกาสจะได้รับงานเพิ่มกว่า 400-500 ล้านบาท พร้อมรับรู้รายได้ในปีนี้และรับรู้รายได้บางส่วนในปี 2566 ส่วนรายได้ด้านงานรับเหมาต่างๆ จะช่วยทำให้รายได้หลักของบริษัท โดยมาจากการขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 5 เมกะวัตต์ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เติบโตอย่างต่อเนื่องและจะช่วยให้บริษัทสามารถเทิร์นอะราวนด์ กลับมามีผลประกอบการที่ดีและมั่นคง” ดร.พลาคม กล่าว นอกจากนี้กลุ่ม ACC ดำเนินธุรกิจภายในนโยบาย “ชีวิตดีดี กับ ACC” โดยประกอบธุรกิจหลากหลายด้าน คือ ธุรกิจพลังงานทดแทน, ธุรกิจอินฟราสตัคเจอร์, รับเหมาสาธารณูปโภค และงานโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้า รวมถึงพลังงานและวิศวกรรมโยธา, ธุรกิจด้านกัญชงกัญชา และธุรกิจด้านการเงิน