VR

ข่าวใหญ่ที่เรียกเสียงฮือฮาในแวดวงเทคโนโลยีบรรลือโลก นั่นก็คือ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัท Facebook Inc. เป็น Meta Platforms Inc. หรือ Meta เพื่อขยายขอบเขตของบริษัทเข้าสู่โลก Metaverse โดยที่ผลิตภัณฑ์ Facebook, Instagram และ WhatsApp ใช้ชื่อเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง Metaverse คือ การสร้างสภาพแวดล้อมของโลกแห่งความจริงเข้าด้วยกัน โดย Zuckerberg ให้คำนิยามว่า มันคือ Virtual environment (ชุมชนโลกเสมือนจริง) เป็นการผสมผสานทั้งเทคโนโลยี AR (Augmented Reality), VR (Virtual Reality), โซเชียลมีเดีย, เกมออนไลน์ และสินทรัพย์ดิจิทัล (Cryptocurrency) เข้าด้วยกัน สำหรับ AR (Augmented Reality) คือ การนำเทคโนโลยีมาสร้างวัตถุเสมือนจริง ผสมผสานเข้ากับสภาพแวดล้อมของผู้ใช้งาน อาจเป็นภาพวิดีโอหรือเสียง ปัจจุบันมีการนำมาใช้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ฟิลเตอร์กล้องถ่ายรูป, เกม Pokémon GO, สื่อการเรียนรู้ และการดูสินค้าของร้านค้าต่าง ีเซีๆ ผ่านการซื้อสินค้าออนไลน์ ส่วน VR (Virtual Reality) คือ การจำลองภาพสิ่งแวดล้อมเสมือนจริงแบบ 360 องศา โดยมีอุปกรณ์เสริมอย่าง แว่นตา VR เมื่อผู้ใช้งานสวมใส่แว่นตาจะเข้าไปอยู่ในโลก ที่มีสิ่งแวดล้อมเสมือนจริงสามารถรับรู้ได้ทั้งภาพ เสียง ความรู้สึก และสามารถตอบสนองกับสิ่งแวดล้อมเหล่านั้น ปัจจุบันนี้มีการนำมาประยุกต์ใช้ ทั้งการเล่นเกมต่าง ๆ และการเรียน เป็นต้น ทั้ง VR และ AR สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยี 5G และกำลังพัฒนานำเทคโนโลยีเหล่านี้ ไปสู่อุตสาหกรรมการแพทย์, การบันเทิง, การสื่อสาร และการลงทุนต่าง ๆ การเชื่อมโยงบนพื้นที่โลกเดียวกันดังกล่าว ผู้ใช้งานสามารถพบปะ เรียน เล่น ทำงาน หรือแม้แต่เลือกซื้อของด้วยกัน ผ่านการใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ เช่น หูฟัง แว่นตา หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับรู้ทั้งภาพ เสียง ความรู้สึกและองค์ประกอบต่าง ๆ ของโลกเสมือนจริง โดยช่วงเริ่มต้นมีการนำ Metaverse มาใช้ในแวดวงเกมออนไลน์ แต่หลังจากนักลงทุนเริ่มมีการเข้าไปลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่สามารถครอบคลุมและรองรับเทคโนโลยี Metaverse ในอนาคต และถือเป็นก้าวสำคัญที่จะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงโลกดิจิทัลที่เราคุ้นเคยไปอย่างสิ้นเชิง แนวคิด Metaverse ถือเป็นแนวคิดที่ถูกใจเหล่านักลงทุนเป็นอย่างมากเนื่องจากระบบดังกล่าวได้รับความนิยมจากกลุ่มคนแถวหน้าด้านไอที โดยไอทียักษ์ใหญ่ อย่าง “ไมโครซอฟท์” มีการกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นการบรรจบกันระหว่างโลกดิจิทัลและโลกความเป็นจริง นั่นเอง... การเปลี่ยนแปลงจาก Facebook Inc. เป็น Meta Platforms Inc. ดังกล่าว เหมือนดั่งที่เคยเกิดขึ้นกับ Apple Computer ช่วงปี 2007 ที่เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Apple เพื่อมุ่งหน้าสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ นอกเหนือจากคอมพิวเตอร์และเป็นที่มาของ iPad และ iPhone มาจนถึงทุกวันนี้.. เช่นเดียวกับช่วงปี 2015 Google เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Alphabet จัดตั้งยานแม่ขึ้นมา เพื่อขยายธุรกิจให้หลากหลายมากขึ้นมากกว่าการเป็น “เว็บเสิร์ชเอนจิน” อย่างที่โลกรู้จักตลอดช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นที่น่าสนใจว่าวิสัยทัศน์ Meta แห่งเทคโนโนโลยีแห่งอนาคต..ว่าด้วยเรื่อง Metaverse ของ Zuckerberg จะนำไปสู่ “จุดเปลี่ยนสู่โลกยุคใหม่” ได้อย่างไร..เชื่อว่าไม่นานคงจะได้เห็นกัน..!!