WHA โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์

นายสุเชษฐ์ สุขแท้ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายมีเดียมาร์เก็ตติ้ง บริษัทหลักทรัพย์เอเอสแอล จำกัด เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ทาง Kaohoon TV Online และสถานีวิทยุกระจายเสียง ขส.ทบ. FM 102 MHz โดยมองว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันนี้ประเมินออกมาให้กรอบแนวต้าน 1,700 จุด ส่วนแนวรับ 1,680-1,679 จุด อย่างไรก็ตามเชื่อว่าระยะสั้นถ้าหากยืนเหนือระดับ 1,680 จุด ดัชนียังมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,700 จุดได้ แต่ถ้าหลุดลงมาต่ำกว่าระดับ 1,670 จุด ให้นักลงทุนควรระมัดระวังในการลงทุน ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเช้านี้ เคลื่อนไหวในลักษณะผันผวน เนื่องจากยังต้องติดตามเรื่องอัตราดอกเบี้ยของประเทศออสเตรเลียว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ขณะที่หุ้นแนะนำการลงทุน ได้แก่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP ซึ่งเป็นหุ้นแบงก์ที่มีลักษณะผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่ง โดยให้แนวรับไว้ที่ 66.50 บาท แนวต้านไว้ที่ 70.75 บาท ส่วนตัดขาดทุนที่ 66.50 บาท ส่วนอีกตัวนั้นคือ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR ให้แนวต้านไว้ที่ 4.70 บาท และให้แนวรับ 4.32 บาท เนื่องจากหุ้นตัวนี้มาพร้อมกับเทรนด์ของการเดินทางกลับมาในประเทศไทยของนักลงทุนชาวต่างชาติ ซึ่งกราฟเป็นขาขึ้นที่น่าสนใจ นอกจากนั้น บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เป็นลักษณะการแกว่งตัว โดยให้ราคาเป้าหมาย 4.20 บาท พร้อมกับให้แนวรับ 3.88 บาท รวมถึง บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ราคาหุ้นยังเคลื่อนไหวขาขึ้น โดยให้แนวต้านที่ระดับ 15.40 บาท ส่วนแนวรับที่ 14.20 บาท และ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ให้แนวรับที่ระดับ 20.40 บาท ส่วนแนวต้านที่ระดับ 22 บาท อย่างไรก็ตาม ภาพตลาดหุ้นยังเป็นลักษณะของการแกว่งตัว ซึ่งคงยังเป็นการรอผลของทางธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีการแถลงเรื่องแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้หุ้นหลายตัวนั้นเริ่มขยับไปในทิศทางที่ดีขึ้น สำหรับมูลค่าการซื้อขายเบาบางไปในช่วงสั้น ๆ ก่อนหน้านี้ ก็มองว่าก่อนหน้านี้สัก 1 เดือนที่ผ่านมาเพราะเป็นเรื่องความกังวลของภายนอก เรื่องของภาครัฐในเรื่องของการเก็บภาษี ขณะนี้เป็นเรื่องที่ต้องถกเถียงกัน แต่ก็เชื่อว่าจะไม่มีอะไร ซึ่งเป็นแค่บรรยากาศภายในประเทศ ส่วนบรรยากาศภายนอกประเทศนั้นไม่มีอะไร ทั้งหมดถือเป็นเรื่องต่อเนื่อง แต่ต้องจับตาดูสิ้นเดือนนี้ว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งเรื่องการเดินทางมาประเทศไทยของคนจีน อีกทั้งยังต้องดูปริมาณการซื้อขายของต่างชาติว่าจะเป็นอย่างไร และจะมีทิศทางเพิ่มขึ้นหรือไม่ ขณะเดียวกันต้องดูปัจจัย 2 อย่าง โดยปัจจัยแรกเรื่องของการเดินทางของชาวต่างชาติ และอีกปัจจัยคือเรื่องของการเลือกตั้ง โดยต้องดูหุ้นเกี่ยวกับเลือกตั้งในแง่มุมต่างๆ เนื่องจากจะเอามาเป็นธีมเล่นในช่วง 1-2 เดือนนี้ ซึ่งหุ้นที่จะเกี่ยวกับการเลือกตั้งนั้นต้องดูทั้งเรื่องหุ้นที่เกี่ยวกับเรื่องขั้วอำนาจและด้านการทำโฆษณามีเดียที่คาดว่าจะมีการต่อสู้ในหลายอุตสาหกรรม ในกลุ่มของมีเดียจะได้รับผลพวงมากๆคือ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB