World Economic Forum 2025

หนึ่งในถ้อยคำทางธุรกิจทั้งหมด คำว่า “ปัญญาประดิษฐ์ (AI)” กลายเป็นวลีหลักที่ผู้นำองค์กรขนาดใหญ่ของโลกทุกคนกล่าวถึงในงานประชุมเวทีเศรษฐกิจระดับโลก World Economic Forum 2025 (WEF) เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ช่วงระหว่างวันที่ 20-24 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา บรรดาซีอีโอบริษัทต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงขนาดใหญ่และนักลงทุนจำนวนมากแต่ละภาคอุตสาหกรรม นับตั้งแต่บริการทางการเงินจนถึงการตลาด มีการพูดถึงศักยภาพเทคโนโลยี AI นี่คือการรวบรวมคำพูดสำคัญจากผู้นำองค์กรชั้นนำบางส่วน ที่เข้าร่วมการประชุม WEF ประจำปีนี้… Khaldoon Al Mubarak ซีอีโอกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัฐบาลอาบูดาบี ระบุว่า โลกยังไม่ตระหนักถึงขอบเขตของการเปลี่ยนแปลงที่ AI จะนำมาสู่ทุกแง่มุมของชีวิตมนุษย์ได้อย่างเต็มที่ “ความต้องการจะสูงมากในแง่ของการเปิดใช้งานเทคโนโลยี AI ดังกล่าว ดังนั้นเทคโนโลยีและการเปิดใช้งาน AI ด้านโครงสร้างพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นด้านพลังงาน การส่งผ่าน รวมถึงเทคโนโลยีทุกรูปแบบของเทคโนโลยีพลังงาน ที่จะช่วยกระตุ้นความต้องการที่มหาศาลนี้ อยากจะเพิ่มการสร้างศูนย์ข้อมูล (data center) และการสร้างชิปด้วย” Larry Summers นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ คนที่ 71 กล่าวว่า “ช่วงเวลาแห่งความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีที่น่าทึ่ง” รวมถึงระบบ AI ที่กำลังเกิดขึ้นมาใหม่ กำลังขับเคลื่อนให้เกิดนวัตกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อนในสาขาต่าง ๆ เช่น วิทยาศาสตร์การแพทย์ “ผมเชื่อว่าปัญญาประดิษฐ์ในบทบาทของอินเทอร์เน็ต เช่นเดียวกับที่คอมพิวเตอร์เป็นสำหรับการคิดเลข นี่คือช่วงเวลาแห่งความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีที่น่าทึ่ง นั่นไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างเรียบร้อยโดยอัตโนมัติ มันเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่สำหรับรัฐบาลในประเทศผมและรัฐบาลของประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก” Richard Edelman ผู้บริหารบริษัท เอเดลแมน (Edelman) ระบุว่า เขาคิดว่า AI มีศักยภาพในการยกระดับคนงานและเร่งประสิทธิภาพการทำงานหรือเพิ่มผลิตภาพ แต่ได้เตือนถึงความเสี่ยงที่ AI จะถูก “ปฏิเสธ” หากผู้นำธุรกิจทั้งหลายไม่ได้พัฒนา ทักษะของพนักงาน “ความเสี่ยงใหญ่ที่สุดคือการที่ AI ถูกปฏิเสธ เราต้องทำให้สิ่งนี้ได้รับการยอมรับโดยการทำให้แน่ใจว่าทุกคนได้ รับการฝึกฝนทักษะใหม่ ผมคิดว่า AI เป็นความหวังอันยิ่งใหญ่สำหรับการมองโลกในแง่ดีและคิดว่ามันเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ เพราะมันจะปรับปรุงการทำงานของเรา และ AI เป็นพันธมิตรของคุณและเป็นตัวช่วยให้คุณฉลาดขึ้น ดีขึ้น และเร็วขึ้น” Sander van’t Noordende ซีอีโอบริษัททรัพยากรบุคคลแรนด์สแตด (Randstad) เตือนถึงความเสี่ยงที่ AI จะเข้ามาแย่งงาน โดยเขากล่าวว่างานด้านการออกแบบและงานธุรการมีความเสี่ยงสูงสุด “หากคุณมองไปยังงานที่ดูเหมือนว่าจะหายไปไม่ว่าจะเป็นงานที่มีคำว่า “เสมียน” หรือ “นักออกแบบ” หรือ “ผู้ช่วยผู้บริหาร” งานเหล่านี้ดูท่าว่าจะอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมาก มีงานใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายในด้านเทคโนโลยี ด้านความปลอดภัยในระบบ AI จะมีงานใหม่ ๆ เกิดขึ้นและมีงานอีกมากมายที่ยังมีความต้องการทั้งการดูแลสุขภาพ, เทคโนโลยี, การบริการและอื่น ๆ อีกมากมายที่ AI ไม่สามารถช่วยได้อย่างแท้จริง” นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งในความหลากหลายกับวลีว่าด้วย “ปัญญาประดิษฐ์ (AI)” เท่านั้น แต่ทว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้จะเป็นคำตอบกันต่อไป..!!??