Yeezy

ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา..สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า Adidas แบรนด์สินค้าแฟชั่นกีฬายักษ์ใหญ่ของเยอรมนี มีผลกำไรปี 2565 ลดลงอย่างหนัก หลังยกเลิกสัญญากับ Kanye West หรือ “เย” นักร้องแร็พเปอร์ชื่อดังชาวอเมริกัน วัย 45 ปี หลังรับไม่ได้กับการแสดงความเห็นเหยียดชาวยิวของเวสต์ ที่กลายเป็นประเด็นร้อนเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยรายงาน ระบุอีกว่า ผลการดำเนิงาน Adidas ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 254 ล้านยูโร (ประมาณ 9,144 ล้านบาท) ลดลงเกือบ 83% จากกำไรสุทธิ 1,490 ล้านยูโร หรือประมาณ 53,736 ล้านบาท เมื่อปี 2564 มีการคาดการณ์ว่าปี 2566 การยุติความร่วมมือกับเวสต์ จะทำให้บริษัทสูญเสียรายได้ถึง 700 ล้านยูโรหรือประมาณ 25,245 ล้านบาทเลยทีเดียว “บียอร์น กุลเดน” ซีอีโอ Adidas ที่ได้รับแต่งตั้งให้มารับตำแหน่งช่วงเดือน พฤศจิกายนปี 2565 ยอมรับว่า ตัวเลขมันบอกชัดด้วยตัวมันเอง ปัจจุบันเราไม่สามารถสร้างผลงานอย่างที่ควรเป็น แต่ Adidas มีองค์ประกอบทุกอย่างที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จ เราจำเป็นต้องใส่องค์ประกอบเหล่านั้นกลับมาอีกครั้ง และผมมั่นใจว่าวันข้างหน้า เราจะทำให้ Adidas กลับมาสดใสอีกครั้ง แต่ตอนนี้เราต้องการเวลา” จุดเริ่มต้นของการยุติความสัมพันธ์ระหว่าง Adidas กับ Kanye West เกิดขึ้นช่วงต้น ตุลาคม 2565 หลังจาก Kanye West วิจารณ์ทีมงาน Adidas ว่า ขโมยไอเดียของเขาไปใช้ออกแบบสินค้า พร้อมพูดเรื่องเหยียดชาวยิว รวมถึงการสวมใส่เสื้อ White Lives Matter ภายในงาน Paris Fashion Week จนมาช่วงปลายเดือน ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา โดย Adidas ออกแถลงการณ์ว่า บริษัทได้ยุติความสัมพันธ์กับ Kanye West พร้อมหยุดดำเนินธุรกิจ Adidas Yeezy ทันที ทำให้การผลิตสินค้า ภายใต้แบรนด์ Yeezy และการจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้กับ Kanye West มีอันต้องยุติเช่นกัน พร้อมยืนยันถึงการตัดสินใจครั้งนี้จะสร้างผลกระทบระยะสั้นกับรายได้รวมปี 2565 หนึ่งในถ้อยแถลง ระบุว่า “Adidas ไม่สามารถทนกับพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติ และ Hate Speech รูปแบบต่าง ๆ พฤติกรรมของ Kanye West จึงเป็นเรื่องที่บริษัทรับไม่ได้” ก่อนหน้านั้น Adidas ประกาศเป็นพาร์ตเนอร์กับ Kanye West เกิดขึ้นเมื่อปี 2556 (ค.ศ. 2013) หลัง Kanye West ตัดขาดความสัมพันธ์กับ Nike ต่อมาปี 2559 (ค.ศ. 2016) ทั้งคู่มีการจัดตั้งหน่วยธุรกิจร่วมกันระหว่าง Adidas และ Kanye West เพื่อทำตลาดสินค้า ภายใต้แบรนด์ Yeezy ที่ประกอบด้วยรองเท้าผ้าใบ, เสื้อผ้า และเครื่องประดับรูปแบบต่าง ๆ โดยสินค้าแบรนด์ Yeezy สามารถสร้างรายได้ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือประมาณ 76,000 ล้านบาท ให้กับ Adidas หรือคิดเป็น 10% ของรายได้ทั้งบริษัท การแตกหักระหว่าง Adidas และ Kanye West ระยะสั้นถือว่ากระทบตัวเลขกำไร Adidas อย่างหนัก แต่ด้วยเหตุผลเรื่อง “เหยียดชาวยิว” ทำให้แบรนด์ดังจากเยอรมนี มีโอกาสฟื้นตัวพ้นวิกฤติกำไรได้ในไม่ช้า ในทางกลับกันชื่อเสียง Kanye West ระยะยาวจะเกิดปัญหาตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..!!!??